หลังจากที่นางสาวเพชรรัตน์ พันธุ์สุจริตไทย รักษาราชการแทนในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแม่แมะ ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้โพสต์คลิปจากกล้องวงจรปิดเป็นภาพครูชาย ที่มีการทำโทษเด็กนักเรียนชาย ที่พักหอพักกินนอนในโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอเชียงดาว ซึ่งในคลิปมีการทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียนชั้น ป.3 อายุเพียง 10 ขวบ เมื่อวันที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมาและก่อนหน้านั้น เมื่อเดือนตุลาคม 2565คำพูดจาก สล็อต168

ครูคนนี้ ยังได้ลงโทษเด็กนักเรียนชายอายุ 11 ปี ที่คิดว่าไปพังประตูห้องน้ำ แต่สุดท้ายเป็นการทำร้ายผิดคน ซึ่งเด็กคนนี้หวาดกลัวหนักจนวิ่งหนีเข้าป่า

นอกจากนี้ แล้วยังพบว่ามีผู้บริหารบางคนเบิกเงินที่เป็นบริจาคสำหรับเด็กด้อยโอกาส นำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ รวมเป็นเงินกว่า 37,100 บาท แต่ความจริงกลับเป็นการเดินทางไปส่งผู้บริหารระดับเขตคนหนึ่ง โดยที่ไม่มีหนังสือไปราชการตามระเบียบ และ มีการเบิกเงินไปเที่ยวคาราโอเกะ

เลือกตั้ง 2566 : สะพัด “บิ๊กป้อม” จ่อทิ้งพปชร. เปิดทาง ส.ส.ย้ายพรรค

เลือกตั้ง 2566 : "สมชาย" ฝันเห็น "เหลือง" บวก "แดง" เป็น "น้ำเงิน"

ทีมข่าวได้สอบถามไปยัง นางสาวเพชรรัตน์ ครูสาวที่ออกมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าวว่า แม้จะเป็นวันเปิดเทอมแล้ว แต่ตนเองต้องขาดงานไม่ได้กลับไปสอน และหลบซ่อนตัวอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ เนื่องจากไม่สามารถกลับไปเข้าพื้นที่ได้เนื่องจากเกรงกลัวเรื่องของความปลอดภัย เพราะคู่กรณีเองเป็นทั้งข้าราชการระดับสูง และบางคนก็มีพฤติกรรมที่ใช้ความรุนแรง ตนเองได้ปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดเชียงใหม่ จะนำหลักฐานเข้าร้องต่อ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ภาค 5 เพื่อให้ช่วยตรวจสอบเรื่องดังกล่าวด้วย

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ ในเรื่องดังกล่าวได้รับแจ้งว่าตอนนี้ยังไม่มีข้อมูล ยังไม่ได้รับรายงานข้อมูลจากพื้นที่เข้ามา ทราบเพียงว่าตอนนี้ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่เขต 3 ต้นสังกัดพื้นที่ที่เกิดเหตุ กำลังเข้าไปติดตามเรื่องดังกล่าวอยู่

ทางด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ บอกว่า ตอนนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงดาว ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยวันนี้ พ.ต.อ.เสกสรรค์ ขันคำนันต๊ะ ผกก.สภ.เชียงดาว ได้นัดพนักงานสอบสวน

พร้อมเชิญ ผู้ปกครอง และเด็กผู้เสียหาย มา ที่ สภ.เชียงดาว เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งหากผู้เสียหายประสงค์จะดำเนินคดี จะได้นัดทีมสหวิชาชีพ เพื่อร่วมสืบสวนสอบสวนต่อไป